เล่าประสบการณ์พลัดหลงกับลูกบน BTS

เมื่อวานเข้ากรุงเทพ แล้วเจอเหตุการณ์ที่ทำเอาแทบหัวใจวาย ปกติเราเข้ากรุงเทพปีละแค่ 1-2 ครั้งเท่านั้นค่ะ แต่ก็เคยพาลูกขึ้น BTS อยู่บ้าง เมื่อวานตั้งใจจะไป CTW ก็เลยขับรถไปจอดที่ MBK แล้วใช้ BTS ในการเดินทาง เราขึ้นที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ไปกับลูกสาวอายุ  10 ขวบ จากสถานีแรกไม่มีปัญหาอะไร พอถึงสยามต้องเปลี่ยนขบวน เราก็เงอะงะนิดหน่อยตามประสาคนไม่คุ้นเคย ไม่รู้ว่าต้องขึ้นตรงไหนต่อ พอดีหันไปฝั่งตรงข้ามเห็นขบวนที่จะต้องขึ้นพอดี ผู้คนกำลังวิ่งกรูกันเข้าไป เราก็วิ่งตามค่ะ บอกลูกว่าขึ้นไปเลย ลูกก็วิ่งนำหน้าไป พอเค้าเข้าไปในรถได้ประตูก็ปิดค่ะ เราเข้าไปไม่ทัน สองแม่ลูกได้แต่มองหน้ากันแล้วรถก็แล่นจากไป

ช็อคค่ะ เฮ้ยทำยังไง เห็นภาพลูกเอามือทุบประตูรถ แล้วทำอะไรไม่ได้แล้ว แต่มีคนในรถเห็นเหตุการณ์ เราคิดว่าอีกเดี๋ยวต้องมีคนโทรหาเราแน่ เพราะลูกจำเบอร์เราได้ เราเคยเตี๊ยมกัไว้แล้วว่าเวลาหลงทางกันต้องทำยังไง เคยบอกลูกว่าถ้าพลัดหลงกันให้ขอความช่วยเหลือจากผู้หญิงที่แต่งตัวชุดที่ดูเหมือนเครื่องแบบ หรือชุดทำงาน หรือนักศึกษาก็ได้ บอกเบอร์แม่ให้เค้าช่วยโทรหา แต่ครั้งนี้เราก็คิดว่าคนที่เห็นเหตุการณ์น่าจะช่วยโทรมาเลย

ส่วนตัวเราตอนนั้นคือลนลานค่ะ จะวิ่งลงไปที่ห้องขายตั๋วขอความช่วยเหลือ วิ่งลงไปได้ครึ่งทางเปลี่ยนใจวิ่งกลับขึ้นมา รอรถขบวนต่อไปแล้วตามลูกไปดีกว่า แต่ก็คิดว่าลูกเราจะออกจากรถไฟที่ไหนล่ะ เค้าจะรู้ไหมว่าต้องออกสถานีไหน ป่านนี้ยังไม่มีใครโทรมาอีก อยู่ในอาการกระวนกระวายเลยค่ะ แล้วก็มีคนข้างๆ มองว่าเราเป็นอะไรก็เลยเล่าให้เค้าฟัง เค้าก็บอกไปไปบอกรปภ. ขอให้เค้าวอ.หารปภ.สถานีอื่นได้ไหม ให้ช่วยมองหา เราก็เดินไปหารปภ. กำลังคุยระหว่างนั้นเอง ก็มีเบอร์แปลกๆ โทรมาค่ะ โอ๊ยดีใจมาก มั่นใจว่าต้องใช่ เราก็รับสายค่ะ ใช่จริงๆ เสียงผู้หญิงบอกว่าอยู่กับลูกเราตอนนี้รอที่ชิดลมให้เราตามไป ตอนนั้นคือคิดว่ามีคนพาลูกเราลงจากรถมารอแล้วก็เลยโทรหา

เราก็รีบขึ้นรถตามไปชิดลมค่ะ ไปถึงปรากฎว่าน้องอยู่กับเจ้าหน้าที่ในห้องขายตั๋ว โอ๊ยดีใจมากค่ะสวรรค์โปรด ขอบคุณคุณพระคุณเจ้าที่คุ้มครองลูกเรา ให้เราได้มาเจอกันอีก เจ้าหน้าที่ก็ชมว่าน้องเก่งมากจำเบอร์คุณแม่ได้ น้องเด็กมาก เก่งที่รู้จักมาขอความช่วยเหลือ เราก็เลยเพิ่งรู้ว่าคนที่โทรหาเราคือจนท.BTS.

สอบถามลูกว่าหลังจากแยกกันเกิดอะไรขึ้นบ้าง สรุปคือ คนบนรถไฟฟ้าบอกให้น้องออกจากรถสถานีถัดไป แล้วไปขอความช่วยเหลือค่ะ น้องออกจากรถไปเองคนเดียว ไม่มีใครพาไป น้องวิ่งลงจากชานชาลา ไปข้างล่าง น้องบอกว่าวิ่งไปขาสั่นไปหมด แต่ไม่ร้องไห้ จากนั้นไปตรงที่ช่องทางออกแล้วไปบอกเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ตรงนั้นว่าพลัดหลงกับแม่ จนท.จึงพาน้องเข้าไปรอที่ห้องขายตั่ว แล้วจึงได้ติดต่อกับเราค่ะ น้องบอกว่าไม่กลัวมาก มั่นใจว่าต้องติดต่อแม่ได้ ดีใจในความมีสติของลูก ดูรู้ว่าจะต้องทำอะไรมากว่าแม่อีก ตอนนั้นแม่เอาแต่จ้องโทรศัพท์ คิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง

จากนี้ไปถ้าต้องทำอะไรแบบนี้อีก คนต้องระวังให้มากๆ ต้องมีสติ ไม่รีบร้อนจนเกินไปจนไม่ได้คิดถึงความปลอดภัย บอกตรงๆ ว่าตอนนี้แม่ก็ยังใจไม่ดีเลยค่ะ คิดกลับไปแล้วมันหวิวๆ ตลอดเลย ก็หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์กับแม่ๆ ที่ต้องเดินทางกับลูกเล็กๆ นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่